วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2554

เครื่องตรวจจับความเร็ว




เพื่อเป็นการลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ควรขับรถด้วยความเร็วตามกฎหมายกำหนด……. 
บนทางหลวง ในเขตเทศบาล 
รถเก๋งหรือรถปิกอัพ ใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 80 กม./ชม. 
รถบรรทุกหรือรถโดยสาร ไม่เกิน 60 กม./ชม. 
บนทางหลวง นอกเขตเทศบาล 
ให้รถเก๋งหรือปิกอัพ ใช้ความเร็วไม่เกิน 90 กม./ชม. 
รถบรรทุกหรือรถโดยสาร ไม่เกิน 80 กม./ชม. และ 
บนมอเตอร์เวย์ 
รถเก๋งหรือปิกอัพ ไม่เกิน 120 กม./ชม. 
รถบรรทุกหรือรถโดยสาร ไม่เกิน 100 กม./ชม. 


ทั้งนี้ในเชิงเทคนิค ได้รับการพิสูจน์และยืนยันจากทั่วโลก การขับขี่รถที่ 
ความเร็วไม่เกิน 90 กม./ชม. 
นอกจากช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ 15-20% 
ยังช่วยลดการตายบนถนนได้ 12-24% แต่ความเร็วดังกล่าว ไม่สามารถลดอุบัติเหตุได้ 
หากทุกคนประมาท 
เมามายขณะขับรถ และการไม่ร่วมมือกันปฏิบัติตามกฎหมาย 
ข้อมูลจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลและสำนักงานนโยบาย





เครื่องตรวจจับความเร็วอัตโนมัติ 
    การทำงานของเครื่องตรวจจับความเร็วด้วยแสงเลเซอร์นี้สามารถใช้งานได้ทั้ง
ระบบควบคุมเองและระบบอัตโนมัติ โดยเมื่อรถที่ใช้ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนดผ่าน
จุดตรวจกล้องก็จะทำการถ่ายภาพโดยอัตโนมัติ จากนั้นความเร็วและภาพรถ จะถูกส่งมาจัดเก็บ
และแสดงที่ชุดประมวลผลพร้อมแสดง วัน เดือน ปี เวลา สถานที่ จากนั้นข้อมูลเหล่านี้จะถูกส่งต่อ
มายังศูนย์อำนวยการตำรวจทางหลวงเพื่อที่จะตรวจสอบทะเบียนรถ และ ออกใบสั่งส่งไปยังที่
อยู่ของผู้ครอบครองรถตามทะเบียน ต่อไป และหากผู้ได้รับใบสั่ง
ไม่ไปชำระค่าปรับภายในเวลา   7  วัน 
กองบังคับการตำรวจทางหลวงจะส่งข้อมูลไปยังกรมการขนส่งเพื่ออายัดการต่อทะเบียนรถด้วย 
สำหรับความเม่นยำของเครื่องเป็นไปตามมาตรฐานขององค์กร 
International Association of Chiefs of Police (The IACP) 
ทั้งยังประสานสำนักมาตรวิทยาแห่งชาติ 

วันพุธที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2554

เครื่องชาร์ทมือถือไร้สาย



เครื่อง Energizer ราคาอยู่ที่ประมาณ 2,730 บาท วางจำหน่ายเมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมา, ซึ่งทางบริษัทผู้พัฒนาได้ผลิตปลอกมือถือ(สำหรับใช้งานกับอุปกรณ์นี้เท่านั้น)ให้รองรับได้หลายระบบแล้ว ไม่พบปัญหาใดๆ เกิดขึ้น ตัวระบบทำงานได้ปกติ รวมทั้งปลอกสำหรับรุ่นมือถือ iPhone 3G และ 3GS, BlackBerry Curve 8900 และล่าสุดได้ทดสอบกับปลอกของมือถือ iPhone 4


อุปกรณ์ที่ชาร์ทตัวนี้มีรูปทรง และขนาดที่บาง ใช้พลาสติกคุณภาพดีสีดำ มีที่วางมือถือได้สองเครื่องในเวลาเดียวกัน ซึ่งจะมีช่องต่อ USB ด้านหลังของอุปกรณ์สำหรับอุปกรณ์เสริม สรุปก็คือคุณสามารถชาร์ทในเวลาเดียวกันได้ 3 เครื่องในเวลาเดียวกัน


อุปกรณ์ตัวนี้สามารถทำงานร่วมกับ Qi (ออกเสียงว่า “ชี”) ซึ่งเป็นองค์กรที่กำหนดมาตรฐานของพลังงานไร้สาย (Wireless Power Consortium) เราได้จัดให้เป็นอุปกรณ์ 1 ใน 8 ที่ควรจับตามองในปี 2011 ซึ่งองค์กรที่กล่าวมาข้างต้นประกอบไปด้วยสมาชิก เช่น Samsung, Panasonic, Sony, HTC, Verizon, Duracell, Energizer, Black & Decker และอีก 2-3 บริษัท — แต่ไม่มี Apple มาเข้าร่วมด้วย แนวความคิดนี้เกิดขึ้นมาเพื่อตัวสินค้าทั้งหมดที่สมาชิกผู้เข้าร่วมได้ผลิตขึ้น



และนี่ก็คือไดอะแกรมในการแสดงให้เห็นหลักการทำงาน


หลักการทำงานของเจ้าตัวอุปกรณ์นี้ ทำงานได้อย่างเหลือเชื่อ ตัวระบบ Qi ใช้พลังงานสนามแม่เหล็กในการเคลื่อนย้ายพลังงานแทนสายไฟ
ช่วงเวลาที่ผมได้สวมปลอกสำหรับ iPhone 4 เข้าไปแล้ว สิ่งแรกที่ต้องการทำหลังจากที่ได้ใส่ปลอกแล้วคือการวางไว้ตรงถาดวางของอุปกรณ์ชาร์ต แล้วจะมีไฟแสดงสถานะสว่างขึ้น เพื่อบอกให้รู้ว่าระบบได้เริ่มการชาร์ตแล้ว เมื่อระบบชาร์ตเต็มแล้ว ไฟแสดงสถานะจะดับลง เพื่อประหยัดพลังงาน





สวมปลอกแล้วนำไปวางบนถาดวาง



มีที่วางรองรับ 2 เครื่อง






มีช่องต่อ USB ด้านหลังเครื่อง



รูปด้านล่างของเครื่อง



ปลอกสวมสำหรับ iPhone 4



ปลอกสวมมีน้ำหนักที่เบา ออกแบบให้ดูสวยงาม



รูปด้านหลังของปลอกสวม



รูปปลอกสวมเปล่าๆ



ปลอกสวมสำหรับ Blackberry



ปลอกสวมสำหรับ iPhone 3GS/3G